ช่วงเดือนแรกที่โรงเรียนสันติดรุณของน้องๆ อนุบาล 1
- Santidarun School
- Jul 23, 2020
- 1 min read

สำหรับเด็กเล็กที่มาเข้าเรียนที่โรงเรียนเป็นครั้งแรก และ ต้องแยกจากคุณพ่อคุณแม่ ต้องเปลี่ยนสถานที่ ต้องอยู่ท่ามกลางผู้คนและบรรยากาศที่ไม่คุ้นเคย ย่อมมีบ้างที่อาจร้องไห้ ไม่อยากไปโรงเรียน
ช่วง 2 สัปดาห์แรกของนักเรียนอนุบาลศึกษาปีที่ 1 จึงเป็นสัปดาห์แห่งการปรับตัว คุณครูเตรียมแผนการจัดการเรียนรู้โดยเริ่มจากการเรียนแค่ครึ่งวัน สร้างความคุ้นเคย สร้างบรรยากาศและกิจกรรม เพื่อให้น้องเล็กลดความกังวลในตนเอง ค่อยๆ คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมใหม่ที่ลูกหลานอาจเพิ่งจะเคยเผชิญ
หลักสูตรปฐมวัยโรงเรียนสันติดรุณ ได้ริเริ่มปรับเวลาให้น้องเล็กมาเรียนเต็มเวลาในสัปดาห์ที่แล้ว โดยในช่วงที่ผ่านมา เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกิจวัตรต่างๆ ในวิถีชีวิตประจำวัน เพื่อให้เป็นผู้ที่มีความสามารถในการดูแลช่วยเหลือตัวเองได้ ทั้งการรับประทานอาหารเอง การทำความสะอาดร่างกาย การสวมใส่เสื้อผ้า ติดกระดุม ใส่ถุงเท้า เป็นต้น กิจกรรมฝึกกิจวัตรเหล่านี้จึงได้ช่วยบ่มเพาะคุณลักษณะของความพยายามให้แก่นักเรียนแต่ละคน
ทั้งยังเน้นการสร้างความคุ้นเคยกับเพื่อน การสอนเรื่องการเข้าสังคม การรอคอย การช่วยเหลือแบ่งปันกับเพื่อน การขอบคุณ การขอโทษ และการชื่นชมสรรพสิ่งรอบตัว
น้องเล็กของโรงเรียนทุกคน เก่งขึ้นมาก ค่อยๆ ปรับตัว สร้างความคุ้นเคยกับคุณครูและเพื่อนๆ ได้ดี รู้จักและจดจำกิจวัตรต่างๆได้ดี รู้จักสังเกตสิ่งแวดล้อมในโรงเรียน ห้องเรียน ควบคุมตนเอง ไม่ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล รับประทานอาหาร นอนกลางวัน และร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่คุณครูเตรียมไว้ได้ดี
เมื่อปรับตัวได้ดีแล้ว ในสัปดาห์ต่อๆ ไป แนวทางการจัดการเรียนการสอน จะเน้นการสร้างกิจกรรมที่พัฒนาระบบประสาทสัมผัสทั้ง 7 (การได้ยิน การมองเห็น การลิ้มรส การดมกลิ่น การทรงตัว และ การเคลื่อนไหว) และ การพัฒนากล้ามเนื้อมัดต่างๆ ผ่านการเล่น เพราะเมื่อเด็กในวัยนี้ได้รับการกระตุ้นระบบประสาทเหล่านี้อย่างเหมาะสม ผ่านการเคลื่อนไหวร่างกายที่หลากหลาย จะทำให้สมองซีกซ้ายและซีกขวาเกิดการพัฒนาอย่างสมดุล ส่งผลให้เด็กเกิดการจดจำและเรียนรู้ได้ดี
โดยจะมีการเน้นบูรณาการวิชาการที่ออกแบบให้เหมาะสมกับช่วงปฐมวัย ให้เกิดความเข้าใจทั้งวัจนภาษา อวัจนภาษา ตัวอย่างเช่น การบูรณาการภาษากายผ่านท่าทาง ผสมผสานกับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาอาหรับ คณิตศาสตร์ ผ่านการเล่านิทาน กิจกรรมบทบาทสมมุติ การจินตนาการ การร้องเพลง การเล่นเกมส์ และ การจดจำดุอาอ์เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นผู้ปกครองจะเริ่มเห็นว่านักเรียนเริ่มมีการบ้านเล็กน้อย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับเขาในการเรียน ได้พูดคุยกับเด็กๆ สรุปการเรียนรู้ประจำวัน และเรียนรู้ที่จะทบทวนตนเองในแต่ละวัน หากเด็กๆ ทำไม่ได้ ไม่ต้องวิตกกังวล ดุด่า หรือกดดัน ให้เด็กๆ ทำ หากเขาทำไม่ได้ ทำไม่สวย ทำไม่เสร็จ ไม่อยากทำ เราต้องอย่าลืมว่า เด็กวัย 3-5 ปี นั้นเปี่ยมด้วยพลังชีวิต โลกของน้องเล็กยังสดใส ทุกอย่างรอบตัวล้วนน่าตื่นเต้น เขามีความกล้าหาญ กล้าจับ กล้าสัมผัส กล้าลอง กล้าคิด กล้าจินตนาการ เขาร่าเริงพร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ ตลอดเวลา ดูเหมือนพลังชีวิตไม่เคยหมด แต่ร่างกาย มือ เท้า กล้ามเนื้อ อาจจะยังไม่แข็งแรงพอที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง
หน้าที่ของคุณครูและคุณพ่อคุณแม่คือบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการรักการเรียนรู้ ช่วยส่งเสริม สร้างประสบการณ์ ความทรงจำที่ดี สัมพันธ์กับการพัฒนาเป็น ชีวิตจิตใจ ทัศนคติ และ พฤติกรรมของเขาในระยะยาวต่อไป
تعليقات